ในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าความก้าวหน้าของเทคโนโลยืด้านฮาร์ดแวร์และซิร์ฟเวอร์นั้นมีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ภาคธุรกิจสามารถนำซอฟต์แวร์หรือแอปพลิเคชันเข้ามาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ความมีประสิทธิภาพเหล่านั้นก็มีเบื้องหลังอยู่เช่นกัน วันนี้เราจึงอยากชวนท่านผู้อ่านมาทำความรู้จักกับ “ผู้ช่วยคนสำคัญ” ว่ากว่าที่แอปพลิเคชันของเราจะทำงานได้อย่างดีนั้น เบื้องหลังมีใครคอยสนับสนุนอยู่

        โดยสิ่งหนึ่งที่หลายคนอาจไม่ทราบก็คือ การทำงานของเว็บ หรือแอปพลิเคชันนั้น จะมีการประมวลผลการทำงาน การ query ข้อมูลจากฐานข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ (หลายแสน Record) ซึ่งสิ่งที่จะช่วยให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วนั้นขึ้นอยู่ที่ความสามารถในการอ่านและเขียน (Read/Write) ของฮาร์ดดิสก์

        โดยฮาร์ดดิสก์ ปัจจุบันมีหลากหลายแบบให้เลือกใช้ไม่ว่าจะเป็น แบบ

จานแม่เหล็ก หรือ SSD (Solid State Drive)

        อย่างไรก็ดี สำหรับฮาร์ดดิสก์จานแม่เหล็ก ต้องยอมรับว่าแต่ละชนิดก็มีความเร็ว หรือการอ่าน – เขียนไม่เท่ากัน ความเร็วรอบของฮาร์ดดิสก์ก็ไม่เท่ากัน รวมถึงเกรดของฮาร์ดดิสก์ก็ไม่เท่ากัน ซึ่งทั้งหมดนี้มีผลต่ออายุการใช้งานของจานแม่เหล็ก ส่งผลให้การใช้งานฮาร์ดดิสก์ประเภทดังกล่าวลดลงอย่างต่อเนื่อง

        ขณะที่ฮาร์ดดิสก์แบบ SSD  (Solid State Drive) ต้องบอกว่าเป็นทางเลือกใหม่มาแรง เนื่องจากมีความเร็วและประสิทธิภาพมากกว่า ซึ่งเราสามารถไล่เรียงจุดเด่นของฮาร์ดดิสก์แบบ SSD ออกมาเป็นข้อ ๆ ได้ดังนี้

        1.ความเร็วในการ อ่าน (Read) เร็วกว่า 3-8 เท่า , เขียน (Write) เร็วกว่า 2-5 เท่า เมื่อเทียบกับดิสก์แบบจานแม่เหล็ก

        2.ไม่มีความร้อน เพราะ กินไฟน้อยเพียง 2-5 วัตต์ น้อยกว่า 13 เท่า เมื่อเทียบกับดิสก์แบบจานแม่เหล็ก

        3.น้ำหนักเบากว่าในขนาดความจุเท่ากัน โดยเทียบน้ำหนักของฮาร์ดดิสกืแบบ SSD ที่ 77กรัม แต่หากเป็นฮาร์ดดิสก์จานแม่เหล็กจะหนัก 750 กรัม

        4.ความทนทานต่อการสั่นสะเทือน ขณะทำงาน ฮาร์ดดิสก์ ssd ทนการสั่นสะเทือนได้ดีกว่าฮาร์ดดิสก์แบบจานแม่เหล็ก 4 เท่า

        นอกจากนั้น ยังมีการนำฮาร์ดดิสก์แบบ SSD มาเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการใช้งานกับ Cloud Hosting ด้วย โดยประเภทที่มีการใช้งานนั้น มีทั้ง SSD ทั่วไปและแบบ  Enterprise SSD ซึ่งจุดเด่นของ Enterprise SSD คือความทนทาน และความสามารถในการ  Read/Write ที่เร็วมากขึ้นเมื่อเทียบกับ SSD ทั่วไป ทำให้สามารถรองรับการทำ Webhosting , Web Application หรือ  Database management (ซึ่งต้องการการ อ่าน-เขียนข้อมูลตลอด 24 ชม. และเป็นเวลานานต่อเนื่องหลายเดือนหลายปี)  ได้ดีกว่า

        การเลือก Cloud Hosting ที่ดีจึงควรพิจารณาด้วยว่า ผู้ให้บริการมีการใช้  Enterprise SSD หรือไม่ โดยจุดเด่นที่สัมผัสได้ชัดเจนถึงความแตกต่างระหว่าง Enterprise SSD กับ SSD ทั่วไปคือการรีสตาร์ทระบบปฏิบัติการได้อย่างรวดเร็ว

ภาพทดสอบหาร boot OS เมื่อเทียบ กับ Disk HDD ( WD Scorpio Blue 750 GB) จะใช้เวลาน้อยกว่า

ข้อมูลจากเว็บ https://www.tomshardware.com

        นอกจากนั้น หากใช้งานด้านเว็บไซต์ ที่มีฐานข้อมูลปริมาณมาก จะพบว่าประมวลผลได้เร็วกว่า โดยประมวลผลด้าน Web Application ที่ Report ผ่าน Crystal Report ที่ดึงจากฐานข้อมูล Mssql ก็มีความเร็วค่อนข้างดี และ เมื่อเทียบการทำงานส่วนของ Query ข้อมูล

ดิสก์ HDD กับ SSD จะเห็นได้ว่า SSD ทำงานได้เร็วกว่า

        ด้วยเหตุนี้ก่อนเลือกใช้บริการ อย่าลืมมองหา Cloud Hosting ที่ใช้ Enterprise SSD นะครับ ซึ่ง บริษัท เมทราไบต์ วัน จำกัด มีให้บริการอยู่

Cloud Windows Hosting SSD
Cloud Linux Hosting SSD

Cloud  WordPress Hosting SSD

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท เมทราไบต์ วัน จำกัด

เบอร์ 02 105 4281 -3

Mobile :

Line : @hostdynamo

Facebook :  Page Metrabyteone

Email :  info@metrabyteone.co.th

By Admin

Hostingdynamo.com